วันจันทร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ผลงาน โครงการ police eyes

วัตถุประสงค์ของโครงการ
ให้มีการขอความร่วมมือทุกภาคส่วนที่มีการติดตั้งกล้อง CCTV อยู่แล้วบริเวณด้านหน้าสถานประกอบการ บ้าน หรือที่ทำการอย่างน้อย 1 ตัว โดยให้มีการปรับมุมกล้องให้สามารถมองเห็นพื้นที่เข้าออกและพื้นที่ถนนสาธารณะหน้าสถานที่นั้นๆ เพื่อสร้างความร่วมมือร่วมใจกันดูแลสังคม และชุมชนให้ปลอดภัย



man4460.....!!!

วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2558

วิธีแก้ไวรัส .Ink shortcut for windown

  • เปิด notepad แล้ว copy ข้อความนี้ไป past ครับ

Windows Registry Editor Version  5.00

[-HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\CurrentVersion\Explorer\FileExts\.exe]

[HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\CurrentVersion\Explorer\FileExts\.exe]

[HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\CurrentVersion\Explorer\FileExts\.exe\OpenWithList]

[HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\CurrentVersion\Explorer\FileExts\.exe\OpenWithProgids]
"exefile"=hex(0):

registrysave as…???? ตั้งชื่อเป็นชื่ออะไรก็ได้ แต่ต้อง .reg
  • รูปร่างหน้าตาของไฟล์ .reg
registryดับเบิ้ลคลิกแล้วกด yes แล้วก็ Restart คอมพิวเตอร์ ครับ
-ตอนนี้เราจะแก้ Registry ได้แล้วลอง test กันเลย

registystart->พิม regedit.exe->คลิกเข้าไป

registryหน้า Registry ครับ (อย่ากดมั่วๆนะครับ -..-)

กดคลิก จนถึง path นี้ HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\CurrentVersion\Explorer\FileExts\

หาตัวการเลยครับ ใครเป็น .lnk ก็ คลิกขวา delete ของ .lnk
  • แล้ว Restart 1 ครั้ง?? เป็นอันเสร็จสิ้นภารกิจครับ
ส่วนใครที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว รึ กลัวว่าจะทำไม่เป็น รึไม่กล้าทำ ผมก็ อัพไฟล์ .reg อัด winzip ไว้ให้ครับ สามารถ นำไป แตก zip แล้ว ดับเบิ้ลคลิก? แล้วก็ Restart? ได้เลยครับ ^^


วิธีแก้ไวรัส .Ink หรือ shortcut for mac

วิธีแก้คือ
เปิด terminal ขึ้นมา แล้วพิมตามนี้
  • defaults write com.apple.finder AppleShowAllFiles 1 && killall Finder
จากนั้นไฟล์ที่ถูกซ่อนก็จะแสดงออกมา เราก็ทำการ copy แล้ว formate ก็เป็นอันเสร็จสิ้น

วิธีซ่อนไฟล์ที่แสดงออกมา กลับให้เป็นเหมือนเดิม
เปิด terminal ขึ้นมา แล้วพิมตามนี้
  • defaults write com.apple.finder AppleShowAllFiles 0 && killall Finder

GOOD LUCK

วันพุธที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2558

Template Powerpoint แบบฟรีๆมากกว่า 100 แบบ

สำหรับคนที่พรีเซ็นงานบ่อยๆ คงเหนื่อยมากสำหรับการตกแต่งงานของคุณให้ดูดีวันนี้ผมจะหา Template powerpoint ฟรีมากกว่า 100 แบบมาให้ดาวน์โหลดกันนะครับผมหวังว่าธีมที่ผมหามาให้คงโดนใจกับหลายๆคนเป็นอย่างมากอีกอย่างไม่ต้องมาเหนื่อยกับการตกแต่งให้ดูดีแล้วสามารถดาวน์โหลดได้ฟรีๆ กันเลยทีเดียว

1.สำหรับเว็บแรกเป็นเว็บของไมโคซอฟนะครับมีมากกว่า 100 แบบลองเลือกกันดูนะครับ http://office.microsoft.com/en-us/templates/

2.เป็นเว็บไซต์ดาวน์โหลดธีม แยกเป็นหมวดหมู่สามารถเลือกได้ง่ายและดาวน์โหลดได้ง่ายอีกด้วย http://www.templateswise.com/

3.เว็บนี้ก็เช่นกันครับแยกเป็นหมวดหมู่ของแต่ละสี สามารถเลือกได้ง่าย http://www.presentationmagazine.com/free_powerpoint_template.htm

4.สำหรับผมผมว่าเว็บนี้โหลดง่ายสุดแล้วนะครับ แยกให้เห็นได้อย่างชัดเจนตามรูปนะครับ http://www.poweredtemplate.com/free-ppt-powerpoint-templates.html

5.เว็บนี้ก็เช่นกันครับแยกเป็นหมวดหมู่อีกอย่างสามารถค้นหาธีมได้อีกด้วย http://www.inzones.com/powerpoint/index.htm


วันพุธที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2558

รถเติมน้ำ เป็นคันแรก..!!!

 คำอธิบายภาพ : 0EiluD

 คำอธิบายภาพ : 99i4fQ

 คำอธิบายภาพ : iCaCQ0


อะไรจะเกิดขึ้น ??? ...เมื่อดาวโลกผ่านพ้นยุคมืด ที่ต้องพึ่งพาสารให้พลังงานสีดำที่ชื่อว่าไฮโดรคาร์บอน ไปสู่ยุคสารให้พลังงานสีขาว หรือ "ไฮโดรเจนบริสุทธิ์" ได้เริ่มขึ้นแล้ว


 คำอธิบายภาพ : img_what2_1 พลังงานไฮโดรเจน  แรงขับเคลื่อนใหม่ที่ใช้แทนน้ำมัน  และก๊าซธรรมชาติ


การค้นพบวิธีที่จะทำให้เติมไฮโดรเจนเหลวเข้าไปในถังน้ำมันได้โดยตรง โครงการวิจัยใช้เวลาถึง 4 ปีในห้องปฏิบัติการมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด เรียกว่า "น้ำมันไฮโดรเจน" อยู่ในรูปของเกลือ "ไฮไดรด์" กับโมเลกุลเชิงซ้อนจำเพาะที่ทำหน้าที่เหมือนเป็นแคปซูลกักไฮโดรเจนไว้นำไปใช้สันดาปได้ทันทีในเครื่องยนต์ ทั้งยังช่วยปกป้องไฮโดรเจนจากอากาศขณะยังไม่ผ่านเข้าเครื่องยนต์ ส่งผลให้ไม่มีคุณสมบัติติดไฟ โดยใช้กรรมวิธีผลิตพิเศษ เรียกว่า "อิเล็กโตรสปินนิ่งแบบร่วมแกน" ซึ่งบังคับให้โมเลกุลเกลือไฮไดรด์ถูกผลักให้เข้าไปอยู่ตามรูของแคปซูลโพลิเมอร์จำเพาะเกิดเป็นโมเลกุลเชิงซ้อน มีสถานะเป็นของเหลวที่อุณหภูมิห้อง (25 องศาเซลเซียส) ราคาราว 1.5 ดอลลาร์ต่อแกลลอน หรือราว 10 บาทต่อลิตร



เลือกโน๊ตบุ๊คอย่างไรที่รองรับอนาคต..!!

เลือกซื้อ Notebook อย่างไรไม่ให้ตกเทรนด์ปี 2015

หากเพื่อนๆคนไหนที่กำลังมองหาซื้อ Notebook มาใช้งานกันสักเครื่องแล้วล่ะก็ ก่อนจะซื้อก็ลองอ่านบทความนี้กันก่อนนะครับ เวลาเลือกซื้อจะได้ไม่ตกเทรนด์และให้สมกับยุคสมัยปัจจุบันที่เทคโนโลยีมันล้ำหน้าเป็นอย่างมาก จะต้องมีอะไรบ้างมาดูกันเนาะ

1. หน้าจอความละเอียดสูง Full-HD
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาปฏิเสธไม่ได้เลยละครับว่าความละเอียดยอดนิยมที่สุดบนโน้ตบุ๊คมาตรฐานทั่วไปจะมีความละเอียดที่ HD หรือ 1366×768 พิกเซลกันทั้งนั้น ซึ่งแน่นอนว่ามันก็เพียงพอที่จะใช้งานได้ แต่ในปี 2015 นี้เองความละเอียดระดับนี้นับได้ว่าเล็กเกินไปแล้วด้วยเหตุผลหลากหลายประการเช่น พื้นที่การใช้งานโปรแกรมต่างๆค่อนข้างจำกัดจำเขี่ย , ตัวหนังสือบนเว็บต่างๆที่ไม่พอดีจนบางครั้งต้องสกอร์กันนานกว่าจะอ่านเว็บๆหนึ่งหมด เป็นต้น


2. หน้าจอแสดงผลแบบสัมผัส
ต้องยอมรับเลยละครับว่าในช่วงเวลาของ Windows 7 นั้นโน้ตบุ๊คที่มีจอสัมผัสยังใช้วงานได้ไม่ดีเท่าที่ควรนัก รวมไปถึงโน้ตบุ๊คหน้าจอสัมผัสในช่วงเวลานั้นก็มีราคาที่แพงแสนแพง แต่ในปั 2015 จอสัมผัสก็เรียกได้ว่าเป็นมาตรฐานใหม่ของโน้ตบุ๊คระดับกลางที่ใช้ Windows 8.1 กันแล้วละครับ เพราะโน้ตบุ๊คในปัจจุบันก็มีสเปคที่เร็วแรง แอปพลิเคชั่นต่างๆ ก็พร้อมรองรัย รวมถึงหน้าจอแสดงผลสัมผัสก็ลื่นไหลเอามากแล้ว ยิ่งกว่านั้นราคาโน้ตบุ๊คหน้าจอสัมผัสก็มีราคาไม่ได้แพงเลยละครับ ยิ่งถ้าเพื่อนๆซื้อโน้ตบุ๊ค Windows 8.1 หน้าจอสัมผัส ใช้งานไปยางจนถึง Windows 10 เปิดตัวแล้วละก็ ฟีเจอร์์หน้าจะสัมผัสจะใช้งานได้เจ๋งแจ๋วกว่าที่เป็นอยู่แน่นอน


3. ซีพียู Intel Gen 5 “Broadwell”
ผู้นำด้านหน่วยประมวลผลคงหนีไม่พ้น Intel ทื่ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดล่วงเลยมาจนถึง Intel Generation 5 “Broadwell” หน่วยประมวลผลกลางรุ่นใหม่ที่พัฒนามาได้ดีกว่าเดิมมากทั้งในเรื่องของประสิทธิภาพความแรง รวมไปถึงในเรื่องของแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานกว่าเดิมมาก เนื่องจาก Intel Generation 5 “Broadwell” นั้นมาพร้อมสถาปัตยกรรมขนาด 14 นาโนเมตร ที่เล็กลงกว่าเดิม รวมถึงมีเทคโนโลยีใหม่มากมาย ยิ่งถ้าเทียบกับโน้ตบุ๊คที่มีอายุ 3 ปีขึ้นไป การเลือกใช้ Intel Generation 5 “Broadwell” จะเห็นผลได้ชัดเจน


4. รูปแบบโน้ตบุ๊คแบบ 2-in-1
Hybrid Notebook หรือรูปแบบโน้ตบุ๊ตแบบ 2-in-1 เป็นรูปแบบใหม่สำหรับโน้ตบุ๊คที่กำลังจะมาเป็นมาจรฐานใหม่อย่างแน่นอนในปี 2015 นี้ครับ ด้วยความง่ายและความสะดวกในการใช้งานที่ปรับโหมดการใช้งานได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของแท็บเล็ตท่องเว็บกันแบบสบายๆง่ายๆ หรืออยากจะทำงานจริงๆจังก็เพียงแค่ปรับมาเป็นโหมดโน้ตบุ๊คก็ทำงานได้แล้ว  ซึ่งแน่นอนว่าการเลือก 2-in-1 เป็นโน้ตบุ๊คเครื่องใหม่แทนที่โน้ตบุ๊คอายุ 3 ปีเครื่องเก่าของคุณแล้วละก็คุณจะได้ประสบการณืที่สุดแสนจะแปลกใหม่และประทับในการใช้งานอย่างแน่นอน


5. ที่เก็บข้อมูล SSD
ฮาร์ดดิสก์ ฮาร์ดไดร์ฟ หรือที่เก็บข้อมูลแบบจานหมุน นับได้ว่าเป็นเทคโนโลยีที่เก่าแต่เก๋าทีเดียว ด้งบข้อได้เปรียบที่มีราคาไม่แพง และมีจำนวนพื้นที่เยอะทำให้มันได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตามความเร็วของมันก็แทบไม่ได้พัฒนาไปตามกาลเวลาเลย แตกต่างกับ SSD ที่ในปัจจุบันก็พัฒนาต่อเนื่องเป็นอย่างมากครับ เรียกได้ว่ามีความเร็วกว่าฮาร์ดไดร์ฟในบางรุ่นถึงเกือบ 3 เท่ากันเลยทีเดียว แถมราคาของ SSD ก็ลดลงอย่างมากแล้วละครับ โดยในปี 2015 นี้เองเพื่อนๆสามารถหา SSD ที่มีความจุระดับ 256GB กันในราคาไม่เกิน 4,000 บาทได้แล้วครับผม ซึ่งอย่างไรก็ตามในปี 2015 นี้ผมมองว่าโน้ตบุ๊คมาตรฐานที่ดีก็ควรจะมีทั้ง HDD และ SSD ควบคู่กันไปครับ เพราะ HDD ก็ควบเอาไว้เก็บไฟล์หรือเก็บหนัง ข้อมูลต่างๆ ส่วน SSD ก็ควรเอาไว้ลงระบบปฏิบัติการหรือลงเกมที่เล่นบ่อยๆ ครับผม ซึ่ง SSD สามารถหาซื้อมาเพิ่มในภายยหลังได้


6. Wi-Fi แบบ 802.11ac
มาตรฐานการเชื่อมต่อ Wireless Lan แบบใหม่อย่าง AC นับได้ว่าเป็นมาตรฐานใหม่ที่โน้ตบุ๊คทุกรุ่นควรจะมีเป็นอย่างยิ่งครับ ด้วยความเร็วในการส่งผ่านข้อมูลที่มากกว่า Wireless แบบเก่ามากถึง 10 เท่า แถมยังมีระยะสัญญาณระหว่างตัว Router ที่มากกว่าเดิม ซึ่งแน่นอนว่าเพื่อนๆก็ต้องมี Router ที่รองรับด้วยเช่นกันซึ่งมีราคาไม่แพงมาก และคุ้มค่าที่จะเปลี่ยน แต่ก็น่าเสียดายที่โน้ตบุ๊ครุ่นใหม่ในไทยหลายรุ่นโดยเฉพาะรุ่นล่างๆ ถึงกลางๆที่ละเลยไม่ใส่ Wireless Lan แบบใหม่อย่าง AC มาให้ครับ


7. พอร์ตเชื่อมต่อ USB 3.0
บอกเลยละครับถ้าโน้ตบุ๊ครุ่นใหม่ในปี 2015 ไม่มีพอร์ตเชื่อมต่ออย่าง USB 3.0 แล้วละก็ก่อนซื้อต้องคิดให้มากๆเลยละครับ เพราะพอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB 3.0 นั้นเป็นพอร์ตเชื่อมต่อมาตรฐานที่จำเป็นอยากมานอกเหนือจากในเรื่องของความเร็วในการอ่านเขียนที่มากกว่าเดิมถึง 10 เท่าแล้ว ยังรวมไปถึงกำลังไฟที่ USB 3.0 มีมาให้มากกว่า USB 2.0 แบบเก่าทำให้มันสามารถเชื่อมต่อ Dock ต่างๆ หรือแม้แต่เอาไว้สำรองข้อมูลพวก External Harddisk ก็จำเป็นที่จะต้องใช้ USB 3.0 ครัผม ดังนั้นอย่างน้อยจะซื้อโน้ตบุ๊ครุ่นใหม่ในปี 2015 ต้องมี USB 3.0 อย่างน้อย 1 พอร์ตเสมอ


8. USB Charging หรือ USB Charger
USB Charging หรือ USB Charger (BC 1.2) มองดูเหมือนจะไม่จำเป็นนะครับ แต่บอกเลยว่าเทคโนโลยีโคตรจำเป็นสำหรับเพื่อนๆ ทุกท่านที่ใช้สมาร์ทโฟนครับ เพราะมันจะช่วยให้เพื่อนชาร์จสมาร์ทโฤน แท็บเล็ต ได้สะดวกขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องพกพาอะแดปเตอร์สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตติดตัวไปไหนมาไหนด้วยเลยละครับ เพราะเจ้า USB Charging หรือ USB Charger (BC 1.2) นั้นมีแรงดัน 5V และมีกระแสสูงสุดที่ 1.5A กันเลยทีเดียว ส่วน USB 3.0 มีแรงดัน 5V และมีกระแสสูงสุดที่ 900mAh เท่านั้นเองเรียกได้ว่าชาร์จ Device ได้ง่ายๆ สบายๆ เลยละครับ


9. ระบบปฏิบัติการ Windows 8.1 แท้
Windows 8.1 แท้นั้นย่อมใช้ดีกว่า Windows 8.1 เถื่อนอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของลิขสิทธิ์ที่ไม่ต้องเกรงกลัวใครมาจับ รวมไปถึงในเรื่องของการอัพเดทที่เปิด Auto Update เอาไว้ได้เลยชิวๆ โดยที่ไม่ต้องมาคอยห่วงหน้าพะวงหลังว่า Microsoft จะออก Fix หรือ Patch อะไรมาแก้เผ็ดหรือเปล่า รวมไปถึงในบางครั้งการใช้ Windows 8.1 ปลอมที่มีแคร๊กห่วยๆ ก็อาจจะทำให้โปรแกรม Antivirus มองว่าเป็นไวรัส ยิ่งถ้าซวยสุดๆ ไอแคร๊กห่วยนั่นและจะทำให้คุณเสียทรัพย์ซะเอง เพราะแคร๊กนั้นอาจจะแฝงมัลแวร์ หรือไวรัสที่ดักจับข้อมูลทางด้านธุรกรรมของเราหรือไม่อย่างไรเราก็ไม่อาจทราบได้ ดีไม่ดีเงินในบัญชี iBanking อาจจะหายไปโดยไม่รู้ตัวก็เป็นได้ ยิ่งไปกว่านั้นการใช้ Windows 8.1 แท้ เพื่อนๆ ยังมีโอกาศที่จะได้อัพเกรดไปเป็น Windows 10 ฟรีๆได้อีกด้วยนะจะบอกให้ ดังนั้นถ้าจะซื้อโน้ตบุ๊ครุ่นใหม่ ปี 2015 ที่ควรจะต้องมี Windows 8.1 แท้ด้วยนะ


เป็นข้อมูลในการพิจารณาเลือกโน๊ตบุ๊คให้ทันอนาคตนะครับบบ

ที่มา notebookspect 



วันอังคารที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ปกป้องบัญชี Google ไม่ให้ถูกขโมย หรือโดนแฮค ด้วย Password Alert

google-phishing-password-alert-01

ในบางครั้ง ท่านอาจเผลอกรอกรหัสใส่ในหน้าเว็บปลอม หรือฟิชชิ่ง ซึ่งที่เป็นเว็บไซต์ของผู้ไม่หวังดีที่จะหวังจะขโมยรหัสผ่านของคุณ อย่างหน้านี้ดูเป็นเว็บ Google แต่ความจริงแล้วเป็นเป็นไซต์ปลอม Phishing ถ้าคุณเผลอให้รหัสแก่คนร้ายแล้ว เค้าจะได้รหัสผ่านและสามารถแอบเข้าถึงบัญชี Google ของคุณได้ ซึ่งการโจมตีแบบ Phishing นี้ ประสบความสำเร็จสูงถึง 45%

google-phishing-password-alert-02

เพื่อป้องกันเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทุกคน  Google จึงเปิดตัวส่วนเสริม หรือส่วนขยายของ Chrome  ชื่อว่า Password Alert ซึ่งจะคอยช่วยแจ้งเตือนรหัสผ่าน เพื่อปกป้องบัญชี Google และบัญชี Google Apps สำหรับการทำงาน  แค่ติดตั้งรหัสผ่านเพียงครั้งเดียว Password Alert จะแสดงคำเตือนกรณีที่คุณพิมพ์รหัสผ่านบัญชี Google ลงในหน้าที่ไม่ใช่หน้าล็อกอินของ Google เอง วิธีนี้ช่วยป้องกันจากการโจมตีของฟิชชิ่ง นี่เป็นการรักษาความปลอดภัยอย่างดีที่สุดให้กับแต่ละบัญชีของคุณ 

google-chrome-password-alert-add-on

หลักการทำงานคือ เมื่อคุณติดตั้งและเริ่มต้นใช้งาน Password Alert บน Chrome แล้ว  Chrome จะจดจำแนวทางการจัดเรียงรหัสผ่านบัญชี Google ของคุณ  โดยระบบจะจดจำข้อมูลนี้เพื่อรักษาความปลอดภัยของบัญชี และไม่เผยแพร่ข้อมูลนี้ไปที่อื่น  ต่อไปหากคุณใส่รหัสผ่านในหน้าเพจที่ไม่ใช่ของ Google ฟีเจอร์ Password Alert จะแจ้งเตือน เพื่อบอกว่าคุณกำลังเข้าถึงเวบอันตรายถึงความเสี่ยงที่จะถูกล่อลวง 

ในส่วนของผู้ใช้  Google For Works ,Google Apps และ  Drive for Work สามารถใช้บริการ Password Alert ได้แล้วเช่นกัน โดยผู้ดูแลระบบสามารถติดตั้ง Password Alert ของทุกคน ผ่านโดเมนที่พวกเขาดูแลอยู่ และจะได้รับการแจ้งเตือนหาก Password Alert ทราบว่าเว็บที่คุณเข้าเป็น Phishing

นอกจากจะออกส่วนเสริม Password Alert บน Chrome แล้ว Google ก็กำลังพัฒนาเทคโนโลยี safe browsing ซึ่งช่วยปกป้องผู้ใช้อินเทอร์เน็ตกว่า 1 พันล้านราย บน chrome , safari , firefox  ด้วย และ google ยังแนะนำให้ใช้เครื่องมืออย่าง 2-Step Verification และ Security Key เพื่อปกป้องบัญชี Google และสามารถใช้  Security Checkup เพื่อตรวจสอบบัญชีของคุณว่ามีคนอื่นแอบใช้บัญชี Google ของเราหรือไม่

Credit it24hrs


เปิดตัว Google Photos โฉมใหม่ พร้อมพื้นที่อัพโหลดได้ไม่จำกัด

google-photos-unlimited-storage

หากคุณเป็นคนชอบถ่ายภาพหรือบันทึกวีดีโอบนสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต หรือผ่านทางกล้องโปรเป็นประจำและจะหาพื้นที่บน Cloud เพื่อเก็บภาพส่วนตัว หรือจะแชร์ให้กับเพื่อนทางสังคมออนไลน์ละก็ หลายท่านจะใช้บริการผ่านทาง onedrive , flickr ซึ่งตอนนี้แจกพื้นที่เยอะไปถึง Terabyte แล้ว แต่ล่าสุดในงาน Google io 15 ที่ผ่านมา Google เปิดตัว Google Photos โฉมใหม่พร้อมประกาศให้คนทั้งโลกได้ว้าว..กับการแจกพื้นที่อัพภาพและวีดีโอฟรีแบบไม่อั้น ( Unlimited ) แล้วตั้งแต่วันที่ 29 พฤษภาคม 2558 นี้เป็นต้นไป

google-photos-unlimited-storage-01สำหรับบริการ Google Photos เป็นศูนย์รวมรูปภาพส่วนตัวของเจ้าของบัญชี Google จากการอัพโหลดขึ้นเว็บไซต์ Google photos หรือจาหการ sync ผ่านทางอุปกรณ์พกพาระบบปฏิบัติการ Android และ iOS โดยตัวแอพ Google Photos นอกจากจะแสดงภาพถ่ายทั้งหมดที่เชื่อมต่อด้วยบัญชี google photos แล้ว ยังเพิ่มความสามารถในการค้นหาภาพเก่าๆได้ง่ายขึ้น แม้ภาพมีจำนวนมหาศาล ก็สามารถหาได้อย่างง่ายด้วย ด้วยโหมดการค้นหาหลายรูปแบบเช่น หาเป็นแบบรายวัน รายเดือน รายปี , ค้นหาจากหน้าคน สัตว์ สถานที่ , แยกตามเหตุการณ์ รองรับการค้นหาด้วยข้อความได้ด้วย

ส่วนการแชร์ภาพ ยังสามารถเปลี่ยนภาพนิ่งและวีดีโอบน Google Photos มาปนกันกลายเป็นภาพสไลด์รวมไฮไลต์ต่างๆด้วย  Assistant และสามารถแชร์ภาพเป็นอัลบั้ม , Collection และเป็น Stories ได้

ทั้งนี้ในส่วนการ backup รูปภาพและวีดีโอ ขึ้น Google Photos ฟรีได้ไม่จำกัดนั้น ต้องเป็นภาพที่มีความละเอียดไม่เกิน 16 ล้านพิกเซล และวีดีโอความละเอียดไม่เกิน Full HD 1080P

เรียกได้ว่า Google photos เปิด backup แบบแจกพื้นที่แบบไม่อั้น ฆ่าเว็บบริการฝากรูปทุกรายเลยทีเดียว ใครสนใจหาโหลดแอพ Google Photos โฉมใหม่ลงมือถือ แท็บเล็ต ได้แล้ววันนี้ (ต้องโหลดใหม่)  ผ่านทาง App Store และ Play Store และสำหรับผู้ใช้คอมพิวเตอร์ สามารถใช้งานอัพโหลดรูปและจัดการรูปได้ทางเว็บไซต์ http://photos.google.com

ข้อมูลจาก  iT24Hrs

กสทช. ได้เปิดช่องทางใหม่ในการให้บริการรับเรื่องร้องเรียนผ่านแอปพลิเคชั่น Mobile NBTC1200 บนสมาร์ทโฟน

Mobile-NBTC1200

พล.อ.ต. ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ รองเลขาธิการ กสทช. สายงานบริหารคลื่นความถี่และภูมิภาค เปิดเผยว่า สำนักงาน กสทช. ตระหนักถึงความสำคัญในการคุ้มครองผู้บริโภค โดยนอกจากประชาชนสามารถร้องเรียนถึง กสทช. ผ่านทางศูนย์รับเรื่องร้องเรียน โทร 1200 แล้ว วันนี้ ( 29 พฤษภาคม ) กสทช. ได้เปิดช่องทางใหม่ในการให้บริการรับเรื่องร้องเรียนผ่านแอปพลิเคชั่น Mobile NBTC1200 บนสมาร์ทโฟนด้วย

สำหรับการทำงานของแอพ Mobile NBTC1200 นอกจากจะรองรับการใช้งานในเรื่องการร้องเรียนแล้วยังสามารถสอบถาม และหาคำตอบจากคำถาม-คำตอบที่พบบ่อย (FAQ) ได้อีกด้วย

ทั้งนี้ การเริ่มต้นใช้งานจะต้องลงทะเบียนเพื่อแสดงตัวตนก่อนในครั้งแรกครั้งเดียว จากนั้นสามารถเข้าใช้งานได้ตามเมนูที่กำหนด หากต้องการร้องเรียนหรือสอบถาม ระบบจะเชื่อมต่อเข้ากับระบบรับเรื่องร้องเรียนของสำนักงาน กสทช. โดยตรง และเมื่อบันทึกข้อมูลการร้องเรียนลงไปในช่องที่กำหนดให้แล้ว สามารถถ่ายภาพประกอบ หรือแนบไฟล์ภาพ วีดิโอ พร้อมทั้งส่งข้อมูลพิกัดสถานที่และความแรงสัญญาณของคลื่นจากเครื่องโทรศัพท์ประกอบการร้องเรียน เพื่อให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ได้มากที่สุด หลังจากเจ้าหน้าได้รับข้อมูลนี้จะประสานกลับมาหาประชาชนผู้ส่งเรื่อง ผ่านทางแอพพลิเคชั่นนี้หรือช่องทางที่ลงทะเบียนไว้ ซึ่งในแอพพลิเคชั่นสามารถตรวจสอบสถานะของเรื่องที่ท่านส่งเข้าไปได้ว่าอยู่ในสถานะใด เช่น รับเรื่องแล้ว หรือดำเนินการแล้ว เป็นต้น ซึ่งระบบจะเก็บข้อมูลเรื่องที่สอบถามหรือเรื่องร้องเรียนของท่านไว้ทั้งหมด

ในส่วนของ FAQ จะมีการรวบรวมรายการคำถาม คำตอบ ในประเด็นที่มีการสอบถามเข้ามาบ่อย (Hot Issue) ในช่วงเวลานั้นๆ เพื่อให้ประชาชนสามารถรับรู้ รับทราบ ในประเด็นข้อสงสัยต่างๆ ได้ตลอดเวลา

Mobile-NBTC1200-aท่านสามารถดาวน์โหลดแอพ Mobile NBTC1200 ลงมือถือ Android ได้ ผ่านทาง Play Store  คลิกที่นี่ ส่วนบน iOS อยู่ในระหว่างการพัฒนาและจะเปิดให้ดาวน์โหลดเร็วๆนี้

Credit iT24Hrs

วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

Keyboard กระดาษรองถาด KFC !!

เป็นเหมือนปัญหาโลกแตกสำหรับคนที่เข้าไปทาน KFC มาตลอดว่าหากจะกินไก่ให้อร่อย ก็ต้องใช้มือ ครั้นมือเลอะแล้วจะหันไปตอบแชทบนสมาร์ทโฟนก็ดูจะสกปรกไม่น้อย KFC ของเยอรมนีได้แก้ปัญหานี้ให้กับลูกค้าแล้ว โดยการแจก KFC Tray Typer หรือคีย์บอร์ดบลูทูธในรูปของกระดาษรองถาดมาให้พร้อมอาหาร

Tray Typer นี้เป็นคีย์บอร์ดแบบ QWERTY มีความบางเพียง 0.4 มิลลิเมตร สามารถกันน้ำ เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านบลทูธและทำความสะอาดง่าย สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้และที่สำคัญ ชาร์จได้ด้วย (แต่ข่าวต้นทางไม่บอกว่าชาร์จอย่างไร) โดยคีย์บอร์ดนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก ถึงขนาดที่ว่าลูกค้าทุกคนนำ Tray Typer นี้กลับบ้านไปด้วย เรียกได้ว่าเป็นแผนการตลาดของ KFC เยอรมนีที่ประสบความสำเร็จตัวหนึ่งเลยทีเดียว

ที่มา - The Verge

KFC - Tray Typer from This is for the jury on Vimeo.

upic.me

upic.me

upic.me

upic.me

วันเสาร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

เรามาดูกันซิว่า Windows 10 ทั้ง 7 รุ่น มีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง เราเหมาะกับรุ่นไหน..!!

windows-10-edition-list-02

Microsoft ได้เผยรายชื่อรุ่นย่อยต่างๆของ Windows 10 เพื่อความเหมาะสมกับรูปแบบการใช้งานของผู้ใช้คอมพิวเตอร์ที่จะใช้งานระบบปฏิบัติการ Windows ได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น โดยรายชื่อรุ่น Windows 10 นี้จะมีถึง 7 รุ่น แบ่งเป็นเวอร์ชั่นพีซี 4 รุ่น เวอร์ชั่นมือถือ 2 รุ่น และออกแบบสำหรับอุปกรณ์อื่นๆ 1 รุ่น มาทำความรู้จักกันว่า แต่ละรุ่นมีชื่อว่าอะไร และเหมาะกับผู้ใช้คอมหรืออุปกรณ์ไอทีประเภทไหนบ้าง

Windows 10 Home เป็นรุ่นที่เหมาะสำหรับผู้ใช้คอมพิวเตอร์ทั่วไป เพื่อใช้ในการส่วนตัวและสำหรับครอบครัวภายในบ้าน ใช้ได้กับคอมพิวเตอร์ทั่วไป โน๊ตบุ๊ค โน๊ตบุ๊คแบบ 2 in 1  แท็บเล็ต ซึ่งคอมส่วนใหญ่ที่ใช้ Windows 7 Home Edition และ Windows 8.1 สามารถอัพเกรดเป็น Windows 10 Home ได้ฟรี มีฟีเจอร์ต่างๆใหม่บน Windows 10 เช่น Cortana ผู้ช่วยส่วนตัวประจำคอมพิวเตอร์ของคุณ , Microsoft Edge เว็บเบราเซอร์ตัวใหม่ , มีฟีเจอร์ Continuum โหมดแท็บเล็ตสำหรับอุปกรณ์จอสัมผัส, Windows Hello ระบบรักษาความปลอดภัยในคอมที่มีความสามารถจดจำหน้าผู้ใช้,รองรับการเข้าสู่ระบบดด้วย iris และการแสกนลายนิ้วมือ  มี universal Windows app เช่น Photos, Maps, Mail, Calendar, Music และ Video  และคุณจะได้สัมผัสความบันเทิงการเล่นเกมด้วย Xbox บน Windows 10

windows-10-edition-list

Windows 10 Mobile เป็น ระบบปฏิบัติการ Windows 10 ที่ออกแบบสำหรับโทรศัพท์มือถือ รองรับการทำงาน Universal Windows เหมือนกับ Windows 10 บนคอมพิวเตอร์ มีแอป Office บนมือถือโดยเฉพาะ ซึ่งหน้าตาจะออกแบบเข้ากับขนาดหน้าจอมือถือ และมีอุปกรณ์ใหม่บางตัวสามารถใช้ Continuum for phone ในการใช้งานสมาร์ทโฟนเป็นพีซีเมื่อต่อกับจอใหญ่ได้ (และชื่อนี้ก็เป็นชื่อทางการที่จะใช้แทนชื่อเก่าอย่าง Windows Phoneด้วย )

Windows 10 Pro สำหรับคอมพิวเตอร์ทั่วไป โน๊ตบุ๊ค โน๊ตบุ๊คแบบ 2 in 1 เหมือนกับรุ่น Home แต่บวกฟังก์ชั่นสำหรับการทำงานเรื่องธุรกิจ มีระบบรักษาความปลอดภัยเกี่ยวกับการปกป้องข้อมูลสำคัญทางธุรกิจ และการทำงานแบบ Remote Desktop แบบเคลื่อนที่ และการใช้งานด้านเทคโนโลยี Cloud ด้วย เป็นระบบปฏิบัติการที่รองรับการใช้งานแบบ Choose Your Own Device (CYOD) และผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้คอมพิวเตอร์ระดับ Pro  ในองค์กร  Windows 10 มีสนับสนุนการอัพเดตผ่านทาง Windows Update for Business ให้ดูใหม่และปลอดภัยอยู่เสมอ สำหรับพวกบริษัทองค์กรขนาดเล็กโดยเฉพาะ

Windows 10 Enterprise เป็นระบบปฏิบัติการขั้นสูง สำหรับบริษัทและองค์กรขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ โดยสร้างต่อยอดจากคุณสมบัติทั้งหมดใน Windows 10 Pro เพื่อเพิ่มความปลอดภัยกับ อุปกรณ์ ข้อมูลสำคัญของบริษัท ข้อมูลส่วนบุคคล แอปพลิเคชัน ซึ่งต้องปกป้องจากภัยคุกคามที่มีความรุนแรงบนโลกออนไลน์มากขึ้น ทั้งนี้ Windows 10 Enterprise ซื้อได้ผ่านทาง Volume Licensing (VL)

Windows 10 Education เป็นระบบปฏิบัติการ Windows สำหรับใช้งานในด้านการศึกษา ซึ่งพัฒนาต่อยอดจาก Windowd 10 Enterprise โดยออกแบบสำหรับบุคลากรด้านการศึกษาเช่น เจ้าหน้าที่ ผู้บริหาร ครู และนักเรียน ในสถานศึกษา ต่างๆ โดยจะมีให้ลูกค้าผ่านทาง VL สำหรับสถานศึกษา ส่วนผู้ใช้ ภายใต้ Windows 10 Home และ Windows 10 Pro จะได้รับ Windows 10 Education ได้ฟรีทางเว็บไซต์ VLSC

Windows 10 Mobile Enterprise เป็นระบบปฏิบัติการที่ออกแบบสำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนผู้ใช้สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต สำหรับธุรกิจหรือองค์กร เน้นเรื่องความปลอดภัยสูง การจัดการข้อมูลส่วนตัว กับข้อมูลบริษัท  โดย Windows 10 Mobile Enterprise จะมีให้ลูกค้าผ่านทาง VL

Windows 10 IoT Core สำหรับพวกอุปกรณ์ราคาประหยัด เช่น gateways เป็นต้น

นอกจาก Windows 10 มีถึง 7 รุ่นแล้ว ยังมี Windows 10  Windows 10 Enterprise และ Windows 10 Mobile Enterprise แบบพิเศษ ที่ออกแบบสำหรับใช้เป็น งานด้าน ATM หรือ POS ด้วย ซึ่งธนาคารรายไหนที่ใช้เครื่อง ATM ที่เป็น Windows xp ซึ่งพบเป็นส่วนใหญ่และเก่ามากแล้วทันทีที่รุ่นนี้ออกมา ก็สามารถทำงานเป็น ATM แทนรุ่นเก่าได้เลยและได้รับความปลอดภัยมากขึ้น


ข้อมูลจาก iT24Hrs

วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

เรามารู้จัก Google Docs กันซะนิด !!!

รู้จัก Google Docs กันซะนิด

Google Documents หรือ Google Docs คือ เว็บไซต์ที่ให้บริการพิมพ์งานทางออนไลน์ ให้เราสามารถจัดการเอกสารได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น เพียงแค่คุณมีบัญชี Google บัญชีเดียวก็สามารถใช้งานบริการ Google Docs ได้ โดยปัจจุบัน Google Docs มีโปรแกรมย่อยอยู่ 4ตัว คือ Docs , Slide , Sheet , Forms

แม้ว่า Google Docs นี้แม้ดูหน้าตาและรูปแบบเหมือนทาง Microsoft Office แต่ Google Docs เป็นรายแรกที่ให้บริการ Office บนเว็บไซต์ และสามารถใช้งานได้แบบฟรีๆ ไม่ต้องซื้อซอฟต์แวร์มาติดตั้ง ไม่ต้องดาวน์โหลดโปรแกรม ใช้งานได้ทันทีบนเว็บเบราว์เซอร์ ง่ายๆเพียงเข้าที่ docs.google.com แล้วเข้าทำการ sign in แค่นี้ก็สามารถดูเอกสารที่อยู่บน Google Drive หรือ Google Docs พร้อมทั้ง สามารถสร้าง,แก้ไขเอกสาร และคลิกเปิดอ่านเอกสารได้ทันที

คุณสามารถพิมพ์เอกสารเท่าไหร่ก็ได้ไม่จำกัดจำนวน แล้วบันทึกเก็บไว้ใน google drive ซึ่งเป็นบริการทาง Google สามารถบันทึกเป็นนามสกุล Google docs ได้เท่าไหร่ก็ได้ ด้วยทาง google ไม่คิดรวมกับเอกสารอื่นที่เราฝากไฟล์ไว้ ในจำนวน 15 GB

สามารถดูเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับ Google Docs ได้ คลิกที่นี่ 

วันพุธที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

การประเมินเพาะปลูกข้าว และพืชเศรษฐกิจด้วยดาวเทียม

มาดูเทคโนโลยีสุดทันสมัยที่มาช่วยในการเกษตรกัน ซึ่งเกษตรกรไทย มักจะเจอปัญหานี้เป็นประจำคือ ปัญหาการขาดแคลนน้ำ ทั้งนี้ จึงมีความพยายามลดการปลูกข้าวนาปรัง เพราะข้าวนาปรังคือข้าวนอกฤดูการปลูกข้าวต้องใช้น้ำจากแหล่งน้ำมาก หากเริ่มปลูกไปแล้ว เกิดความแห้งแล้งขึ้นมา ข้าวก็ไม่มีน้ำมาเลี้ยงอยู่ดี  จึงใช้เทคโนโลยีดาวเทียม ติดตามปริมาณการปลูกข้าว รวมทั้งผลผลิตทางการเกษตรอื่นๆ เพื่อให้สามารถบริหารจัดการน้ำในแต่ละพื้นที่ได้
สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ  ( GISTDA )  ใช้เทคโนโลยีดาวเทียมมาช่วยติดตามปริมาณการปลูกข้าว รวมทั้งผลผลิตทางการเกษตรอื่นๆ เพื่อให้สามารถบริหารจัดการน้ำในแต่ละพื้นที่ได้

หลักการทำงานการประเมินเพาะปลูกข้าว และพืชเศรษฐกิจด้วยดาวเทียม

gistda-ricefield-01
ทั้งนี้ ทาง GISTDA ใช้ดาวเทียมถึง 2 ตัว คือ TERRA และ AQUA ถ่ายภาพลงมาที่โลกทุกๆวัน โดย TERRA จะถ่ายภาพในช่วงเช้า ส่วน AQUA จะถ่ายในช่วงบ่าย
gistda-ricefield-04
ซึ่ง resoloution ภาพถ่ายที่ได้นั้นคือ 250×250 เมตร  โดย 1 พิกเซล เท่ากับ 40 ไร่ ซึ่งเป็นข้อจำกัดของระบบอยู่  แต่ภาพจะถ่ายซ้ำทุกๆวัน โดยภาพถ่ายที่ได้นี้จะถูกเรียกว่าข้อมูล  Modis  ซึ่งจะนำไปวิเคราะห์ทุกๆ 16วัน เพราะหากถ่ายเป็นรายวัน จะได้ภาพที่เมฆบังพื้นที่อยู่ เมื่อนำภาพถ่ายทั้งหมดจากดาวเทียมนี้ มาซ้อนทับกัน แล้วจะได้ภาพจริงที่ไม่มีเมฆบัง  แล้ววิเคราะห์ด้วยการหาค่าดัชนีพืชพรรณ เพื่อหาช่วงเวลาที่เริ่มปลูกข้าวในแต่ละพื้นที่ ก็จะสามารถประเมินช่วงเวลาเก็บเกี่ยวข้าวในแต่ละพื้นที่ได้
gistda-ricefield-05
และเมื่อทราบพื้นที่ที่มีการปลูกข้าวแล้ว….ก็ประเมินหาจำนวนผลผลิตที่คาดว่าจะได้ โดยใช้ข้อมูลพยากรณ์ผลผลิตต่อไร่จากสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร มาคูณกับพื้นที่ปลูกข้าวของแต่ละช่วงเวลาปลูก  เราก็จะทราบทั้งช่วงเวลาเก็บเกี่ยวและผลผลิตที่จะได้ด้วย โดยข้อมูลนี้ ถูกนำขึ้นเวปไซต์ที่ rice.gistda.or.th/ricefield ซึ่งข้อมูลที่ปรากฏนี้จะอัพเดตทุก 2 อาทิตย์ และมีข้อมูลย้อนหลังแสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับพื้นที่เพราะปลูกได้ด้วย ถ้าติดตามไปเรื่อยๆจะรู้ว่าพื้นที่ไหนปลูกใหม่ พื้นที่ไหนต้องเก็บเกี่ยวแล้ว และสามารถดาวน์โหลดรายงานได้ด้วย เป็นไฟล์ Microsoft Excel
ซึ่งเทคโนโลยีการติดตามปลูกข้าวนาปรังนี้เพื่อให้กรมส่งเสริมการเกษตรและกรมชลประทาน  สามารถนำข้อมูลไปใช้ในการบริหารจัดการต่อได้ รวมถึงภาคเอกชนก็สามารถนำข้อมูลนี้ ไปใช้วางแผนธุรกิจได้ด้วย เช่นดูว่าพื้นที่ไหน ปลูกพืชอะไรเยอะอยู่ในตอนนี้ จะได้หาพื้นที่ที่ควรนำปุ๋ยไปจำหน่าย เป็นต้น  นอกจากติดตามการปลูกข้าวได้แล้ว ยังสามารถติดตามผลผลิตอื่นๆเช่น ข้าวโพด อ้อย และมันสำปะหลังได้อีกด้วย
credit iT24Hrs

วันอังคารที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

หมดปัญหาเรื่องเม็มเต็ม Capture App บริการใหม่จาก Dtac..!! อัพโหลดรูปภาพ วีดีโอ สูงสุด 100 GB

หมดปัญหาเรื่องเมมเต็ม ในการถ่ายภาพในชีวิตประจำวัน ล่าสุด dtac เปิดบริการ Capture App ให้เก็บทุกความทรงจำทั้งรูปภาพและวีดีโอไว้บนคลาวด์(cloud) ได้อย่างจุใจ!

Capture App เป็นบริการใหม่จาก dtac ที่สามารถจัดเก็บทั้งภาพถ่ายและวีดีโอบนสามาร์ทโฟนขึ้นคลาวด์(cloud) โดยมาในรูปแบบแอพพลิเคชั่นและหน้าเว็บไซต์ ซึ่งโดยปกติแล้ว ก็มีบริการหลากหลายที่ให้คุณสามารถเก็บรูปภาพไว้บน Cloud เช่น iCloud สำหรับผู้ใช้อุปกรณ์ iOS ที่มีพื้นที่ฟรี 5 GB หรือบริการอย่าง Google Drive ที่มีพื้นที่ฟรี 15 GB แต่ผู้ใช้มักประสบปัญหากับพื้นที่เก็บข้อมูลที่ไม่เพียงพอ ด้วยรูปถ่ายเก่าที่มีจำนวนมาก และรูปถ่ายใหม่ที่เกิดขึ้นแทบทุกวัน แต่สำหรับ Capture App นั้น มีพื้นที่เรียกได้ว่าเยอะและค่อนข้างจุใจ

โดยถ้าหากเป็นลูกค้า dtac ระบบรายเดือนจะได้รับสิทธิ์พื้นที่เก็บข้อมูลบน Capture App ฟรี ตามค่าบริการรายเดือนของแพ็คเกจหลัก หากมีค่าบริการรายเดือนน้อยกว่า 500 บาท จะได้รับพื้นที่ฟรี 25 GB  , ค่าบริการรายเดือน 500 – 899 บาทจะได้รับพื้นที่ฟรี 50 GB  และค่าบริการรายเดือน 900 บาทขึ้นไป จะได้รับพื้นที่ฟรีมากถึง 100 GB เลยทีเดียว ส่วนลูกค้าระบบเติมเงินรับสิทธิ์การใช้งาน Capture App 25 GB โดยไม่มีค่าใช้จ่าย จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2558 สำหรับเครือข่ายอื่นๆก็สามารถใช้บริการได้ เพียงแต่จะได้รับพื้นที่ฟรี 2 GB

วิธีการใช้งาน  Capture App

Capture App สามารถดาวน์โหลดใช้งานได้ทั้งบนสมาร์ทโฟน แท็บเล็ตระบบ iOS และ Android โดยเมื่อดาวน์โหลดเสร็จแล้วจะมีขั้นตอนให้ Login ด้วยเบอร์โทรศัพท์และอีเมล หลังจากนั้น Capture App จะให้เราเลือกตั้งค่าการอัพโหลดรูปภาพ ซึ่งสามารถเลือกอัพโหลดทุกรูปภาพขึ้นสู่ Cloud โดยอัตโนมัติ และตั้งค่าให้อัพโหลดโดยไม่ต้องผ่าน Wi-Fi ได้ด้วย

Capture App Dtac 1

ข้อดีของแอพนี้ก็คือ ใช้งานง่ายมากๆ สามารถอัพโหลดรูปภาพโดยที่ไม่ต้องกดอัพโหลดเอง หรือต้องคอยกด Sync หากมีการถ่ายรูปใหม่ รูปก็จะถูกอัพโหลดขึ้นสู่พื้นที่เก็บบน cloud ทันที เรียกได้ว่าเราไม่ต้องกังวลเลยว่ารูปภาพสำคัญของเรานั้นจะสูญหายไป (แต่หากไม่ต้องการให้อัพโหลดอัตโนมัติ ก็สามารถกำหนดที่การตั้งค่าได้) แถมช่วยให้หมดปัญหาเรื่องเมมโทรศัพท์เต็ม เก็บรูปไม่พออีกด้วย และถ้าต้องการอัพโหลดภาพตาม Folder บนสามาร์ทโฟน ก็ยังมีคำสั่งให้อัพโหลดได้ทั้ง Folder ด้วย

Capture app Dtac 2

การเรียกดูภาพบน Capture App

การจัดเรียงภาพใน Capture App แอพค่อนข้างเปิดดูได้อย่างสะดวก เพราะถูกจัดเรียงแบบ Timeline แยกเดือนและปี การค้นหาดูรูปจำนวนมากจึงไม่ใช่เรื่องยาก ซึ่งในแอพยังมีฟีเจอร์ CREATE A STORY ให้เรากดสร้างโฟลเดอร์เลือกภาพนั้นๆมาแบ่งเป็นหมวดหมู่ตามที่เราต้องการได้อีกด้วย

Capture app Dtac 3

นอกจากนี้ การเรียกดูรูปภาพก็สามารถทำได้บนทุกอุปกรณ์ โดยนอกจากบนสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต ก็ยังสามารถเรียกดูได้บน PC โดย Login เข้าไปผ่านทางเว็บไซต์ www.capture-app.com/th ซึ่งรูปแบบการจัดเรียงก็คล้ายกับในแอพ โดยเรายังสามารถอัพโหลดภาพบน PC เข้ามาใส่ได้เพิ่มเติม ได้ด้วย เพียงคลิกที่ Upload แล้วเพิ่มภาพหรือไฟล์วีดีโอเข้ามา เรียกได้ว่านอกจากเก็บภาพบนสมาร์ทโฟนแล้ว ยังช่วยบันทึกภาพจากบนคอมพิวเตอร์ของเราด้วย

Capture app Dtac 4

Capture app Dtac 5

การบันทึกรูปภาพและแชร์ภาพจาก Capture App

หากต้องการนำภาพบน Capture App มาบันทึกเก็บไว้ ก็สามารถกด Save รูปภาพ โดยกดเลือกรูปภาพ ซึ่งสามารถเลือกได้ครั้งละหลายภาพในคราวเดียวเพื่อบันทึก หรือหากต้องการแชร์ภาพเหล่านั้นไปบน Facebook หรืออีเมล ก็สามารถเลือกกดแชร์ภาพดังกล่าวได้

Capture app Dtac 6

โดยสรุปแล้ว ภาพรวมการใช้งาน Capture App นั้น สะดวกและง่ายมากๆ ด้วยหน้าตา User Interface ที่เรียบง่าย มีฟีเจอร์การใช้งานที่ไม่ซับซ้อน สามารถเข้าใจได้ทันทีเมื่อเริ่มใช้งาน การอัพโหลดภาพก็แทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย อีกทั้งการเรียกดูภาพก็สามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลาทุกอุปกรณ์ ที่สำคัญคือมีพื้นที่ในการจัดเก็บฟรีเยอะมากๆหากเทียบกับบริการพื้นที่จัดเก็บบน Cloud (Cloud Storage) อื่นๆ จึงทำให้ Capture App เป็นบริการที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟน ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะสิ่งที่หลายคนจะกังวลมากที่สุด คือพื้นที่การจัดเก็บบนโทรศัพท์หรืออุปกรณ์ของเราเองไม่เพียงพอ หรือไฟล์รูปและวิดีโอจะหายไปถ้าอุปกรณ์หาย แต่หากลองใช้ Capture App เราก็ใจชื้นได้ไม่น้อย เพราะทุกความทรงจำของเราถูกจัดเก็บไว้บนคลาวด์ (Cloud) แล้ว

Capture App สามารถโหลดฟรีได้แล้วทั้งสำหรับผู้ใช้ iOS และ Android

Credit iT24 hrs
https://www.facebook.com/man4460

    มาแว้ววว!! Camera 51 แอพถ่ายภาพสุดเจ๋ง ทั้ง ios และ android

    camera-51-ios

    หากคุณเป็นคนที่ชอบการถ่ายรูปผ่านทางโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน แต่ยังไม่รู้เทคนิคการถ่ายรูปอย่างไรให้ดูดีละก็ ขอแนะนำแอพ camera 51 มาเก็บไว้ในมือถือหรือแท็บเบล็ดของคุณ ซึ่งจะเป็นผู้ช่วยในการถ่ายภาพของคุณให้ได้มุมภาพที่สวยองค์ประกอบครบถ้วน เพียงแค่หันไปตามไอคอนมือถือที่ปรากฏบนหน้าจอเท่านั้น ซึ่งเป็นมุมภาพที่ระบบแนะนำว่าดีที่สุด ก่อนหน้านี้ผู้ใช้ Android ได้ใช้ก่อน แต่ล่าสุดแอพ camera 51ได้ออกเวอร์ชั่นสำหรับ iOS แล้ว

    camera-51-ios-a

    โดยแอพ camera 51 บน iOS นี้ ฟีเจอร์การใช้งานคล้ายกับ Android อยู่และที่เด็ดยอดนิยมคือการถ่าย selfie อัตโนมัติ ทั้งนี้ใครที่อยากจะใช้แอพ camera 51  บน iOS มาเป็นตัวช่วยในการถ่ายภาพละก็ มีข้อจำกัดของระบบหน่อยนึง คือแอพ camera 51 สำหรับ iOS จะสนับสนุนรองรับ iOS 8 ขึ้นไป โดย iPhone ต้องเป็น iPhone 5 ขึ้นไป และ iPad ต้องเป็น iPad 3 ขึ้นไป

    สามารถดาวน์โหลดได้ทั้ง ios และ android
    Credit iT24 Hrs
    >>> https://www.facebook.com/man4460

    วันจันทร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

    Find my phone for android!!!

    ปัจจุบันนี้คนเราต้องมีโทรศัพท์ติดตัวกันเกือบทุกคน และบางคนอาจลืมโทรศัพท์ไว้ตามร้านอาหาร บน Taxi หรือ ตามสถานที่ต่างๆ การตามหาแอนดรอยด์กรณีที่สูญหายหรือลืมไว้ที่ใดก็ตาม แต่ล่าสุด Google ได้พัฒนาอีกขั้นให้คุณสามารถตามหามือถือได้ง่ายขึ้น แค่พิมพ์ find my phone บนช่อง Search ของเว็บไซต์ Google

     

    FindMyPhone_on-google-websiteซึ่งผลลัพธ์ออกมาหลังจากพิมพ์ find my phone ลงบนช่อง Search  ก็จะแสดงพิกัดมือถือ Android ของเราตรงหน้าผลลัพธ์ของเว็บไซต์ Google ทันที ทั้งนี้หากคุณมีอุปกรณ์ Android หลายเครื่อง ก็สามารถเลือกอุปกรณ์ที่คุณจะตามหาได้ตามต้องการ  และสามารถคลิกที่ ring เพื่อให้มือถือที่เราตามหาส่งเสียง ringtone ดังๆ ให้คุณได้ยินแล้วตามหามือถือจนเจอ

    การที่จะใช้ฟีเจอร์นี้เบื้องต้น ต้องตั้งค่าหน้าเว็บให้เว็บไซต์ google เป็นเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษก่อน ถึงจะสามารถพิมพ์ find my phone แล้วจะแสดงพิกัดมือถือบนหน้าเว็บ google ได้ และคุณต้องทำการ sign in ด้วยบัญชี Google Account ( Gmail ) ด้วย และการที่ตามหามือถือ Android ได้นั้น ต้องทำการเปิด Location บนมือถือของคุณด้วย ถึงจะสามารถแสดงตำแหน่งมือถือของคุณล่าสุดได้ 

    ใครใช้ Android อยู่ลองใช้เทคนิคนี้ได้เลย.

    Credit iT24Hrs

    https://www.facebook.com/man4460


    วันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

    นำโค้ด Android/ios/.NET มาสร้างแอพบน windows 10

    แนวคิดการนำโค้ดของแพลตฟอร์มต่างๆ มาสร้างเป็นแอพบน Windows 10 มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า Universal Windows Platform Bridges (ตัวย่อ UWPB) เป้าหมายของมันก็ชัดเจนว่าต้องการเพิ่มจำนวนแอพบน Universal Windows Platform (UWP) ให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
    IMG_0339
    เบื้องต้นไมโครซอฟท์สร้าง Bridge ทั้งหมด 4 แบบ แยกตามแพลตฟอร์มยอดฮิตต่างๆ โดยแต่ละตัวมีชื่อโค้ดเนมเรียกขานของตัวเอง ดังนี้

    Project Astoria (Android)

    หรืออีกชื่อหนึ่งคือ "Project A" เราสามารถนำโค้ดจากแอพ Android มาแปลงเป็นแอพบน Windows 10 for phones โดยแก้ไขไม่เยอะนัก
    • ไมโครซอฟท์จะออกไลบรารีชื่อ interoperability library ให้เชื่อมต่อแอพเข้ากับบริการของไมโครซอฟท์แทนบริการของกูเกิล (ยังไม่มีข้อมูลว่าทำอะไรได้บ้าง ทดแทน Google Play services ได้มากน้อยแค่ไหน)
    • มีตัวช่วยแปลง UI ให้หน้าตาคล้าย Windows 10 มากขึ้น
    • เขียนแอพบน IDE ตัวไหนก็ได้ จะใช้ Android Studio หรือ Visual Studio ก็ได้
    • Project Astoria จะเปิดตัวช่วงกลางปี 2015 แต่ตอนนี้เปิดให้นักพัฒนาทดสอบในวงปิดแล้ว

    Project Islandwood (iOS)

    • นำโครงการจาก Xcode มาใช้ใน Visual Studio ดีบั๊กและคอมไพล์ด้วย Visual Studio
    • แก้โค้ดภาษา Objective-C ไม่เยอะก็ใช้งานได้แล้ว
    • เรียกใช้ฟีเจอร์ต่างๆ ของ Universal Windows Platform
    • ตอนนี้ยังทำไม่เสร็จ แต่เปิดให้นักพัฒนาทดสอบในวงปิด

    Project Centennial (Classic Windows app)

    • นำโค้ด .NET และ Win32 มาจัดแพ็กเกจใหม่ เพื่อส่งขึ้นขายใน Windows Store
    • แอพเดิมสามารถเรียกใช้ฟีเจอร์และบริการของ Universal Windows Platform ได้ด้วย
    • จะประกาศข้อมูลเพิ่มเติมช่วงกลางปี ตอนนี้ยังไม่เปิดให้ทดสอบ

    Project Westminster (Web)

    • นำเว็บแอพที่มีอยู่แล้วมาสร้างเป็นแอพบน Windows Store
    • เมื่อติดตั้งแอพแล้ว เว็บแอพสามารถเรียกใช้ Windows API ได้ผ่าน JavaScript
    • การแปลงเว็บเป็นแอพง่ายมาก แค่ป้อน URL แล้วกด publish ได้เลย
    • จะออกรุ่นจริงช่วงกลางปี ตอนนี้ยังไม่เปิดให้ทดสอบ

    ข้อมูลจาก blognone
    https://www.facebook.com/man4460

     

    ค้นหาบล็อกนี้

    เกี่ยวกับฉัน